[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง

 ปลิงรักษาโรค

ปัญหาเรื่องการแพทย์ทางเลือกคืออะไร จะมีใครยอมรับเข้าเป็นการแพทย์แขนงหนึ่งแขนงใดได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ในต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรป อเมริกา และแคนาดา มีการยอมรับการแพทย์ทางเลือกอย่างเป็นทางการ เป็นที่เรียบร้อย มีหลักสูตรการแพทย์ทางเลือก ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง บางมหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์ทางเลือกโดยเฉพาะ เช่น มหาวิทยาลัยบาสตรีในซีแอตเติล และมหาวิทยาลัยปอร์ตแลนด์ในโอเรกอน เป็นต้น

มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งอริโซนา สหรัฐอเมริกา ได้เปิดสาขาการแพทย์ทางเลือกขึ้นมา เป็นเวลาร่วมสิบปีแล้ว โดยมีนายแพทย์แอนดรู ไวลด์ เป็นผู้อำนวยการ

แอนดรู ไวลด์ เป็นแพทย์แผนปัจจุบัน แต่กลับมาให้ความสนใจในการแพทย์แผนต่างๆ ทั่วโลก เขาเดินทางไปหลายแห่ง อินเดีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป อเมริกาใต้ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เพื่อศึกษาการแพทย์พื้นเมือง และการแพทย์แผนโบราณ เขาได้รวบรวมสูตรการรักษาจากแพทย์แผนต่างๆ และได้พยายามให้มีการผสมผสานในการรักษา โดยรวมเอาแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนต่างๆ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน และในสถาบันการแพทย์ทางเลือก ซึ่งเขาเป็นผู้อำนวยการอยู่นั้น ได้รับรองว่าเป็นสถาบันที่เชื่อถือได้ในการด้านการแพทย์

เมื่อสองปีที่แล้ว แอนดรู ไวลด์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น MAN OF THE YEAR ภาพของเขาได้รับการขึ้นปกเต็มหน้าของหนังสือ TIME MAGAZINE

เมื่อถูกถามว่า การแพทย์ทางเลือกคืออะไร แน่ แอนดรู ไวลด์ ตอบว่า คือการแพทย์ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมีรากฐานที่แน่นอน มีเหตุผลทางวิชาการซึ่งพิสูจน์ได้ และให้ประโยชน์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยเห็นผลเป็นที่พิสูจน์ได้อย่างแน่นอน

เขาสรุปง่ายๆ ว่า "การแพทย์แผนใดก็ได้ ที่สามารถช่วยให้คนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ"

เขาบอกว่า เขายอมรับการแพทย์ทุกแผนที่ช่วยคนได้ เช่น การแพทย์แผนจีน การฝังเข็มอายุรเวชสมุนไพร การบำบัดด้วยวิธีต่างๆ แม้แต่การนวด การแช่น้ำเย็นน้ำร้อน นายแพทย์แอนดรู ไวลด์ จะยอมรับได้ทั้งสิ้น

แม้แต่ผู้ที่เป็นหมอผีใช้เวทมนต์คาถา แต่ถ้ารักษาคนไข้ได้สำเร็จ แอนดรู ไวลด์ ก็ยอมรับว่าวิธีเช่นนั้น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์ทางเลือกได้

ตกลงการแพทย์ทางเลือกนั้น เป็นการยากที่จะหาข้อจำกัดลงไปแน่นอน ว่าคืออะไรแน่ แต่ถ้าหากใช้รากฐานซึ่ง น.พ.แอนดรู ไวลด์ ได้วางไว้ว่า เป็นแพทย์ทุกแผนที่ช่วยคนได้ และพิสูจน์ได้เช่นนี้ ก็จะเป็นการง่ายขึ้นที่จะมองเห็นว่า อะไรคือการแพทย์ทางเลือก

ผมขออนุญาตเล่าตัวอย่าง เกี่ยวกับการรักษาแบบเก่าวิธีหนึ่งซึ่งได้เอามาใช้ ในการแพทย์ปัจจุบันอย่างเปิดเผย และก็เป็นที่ยอมรับกันมาหลายปีแล้ว

นั่นคือการใช้ปลิงดูดเลือดในการรักษาคนไข้

พูดถึงปลิงทั่วๆ ไป ใครๆ ก็คงทำท่าขยะแขยงขนลุกขนพอง ยิ่งถ้าบอกว่าเอาปลิงมาดูดเลือด เพื่อช่วยในการรักษาคนไข้ คนไข้หลายคนอาจจะวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาล ก่อนที่จะเห็นปลิงเสียด้วยซ้ำ

แต่ความจริงนั้น การใช้ปลิงดูดเลือดเพื่อช่วยเหลือคนไข้นั้น ใช้ในการรักษาพยาบาลกันมาหลายร้อยปีแล้ว ในกรณีที่เป็นแผลเน่าเปื่อย หรือมีการอักเสบปวดบวม หรือมีอาการทางสมอง เช่น ปวดหัว ปวดประสาท ก็เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับ "หมอปลิง" ที่จะเอาปลิงมาใช้ในการรักษาโรคเหล่านี้

การใช้ปลิงเพื่อรักษาโรคนั้น เป็นวิธีที่ได้ผล กระทั่งในบางครั้งกลายเป็นกรณีมหัศจรรย์ อย่างเหลือเชื่อ และแพทย์สมัยเก่า ก็ได้ใช้ปลิงมาเป็นเวลานานหลายพันปี ในอียิปต์ ในยุโรป อินเดีย และในประเทศจีน ใช้ปลิงรักษาโรคติดต่อกันมาจนกระทั่งสมัยการแพทย์ปัจจุบัน

แต่จะด้วยความรังเกียจปลิง หรือเพราะความขยะแขยง ที่เห็นมันอยู่ได้ด้วยการดูดเลือด หรือเพราะอะไรก็ไม่ทราบ วงการแพทย์ปัจจุบันได้หันหลังให้กับการใช้ปลิงโดยสิ้นเชิง และปลิงก็สูญหายไปจากโรงพยาบาลแผนปัจจุบัน กลับไปทำมาหากินอยู่ในป่าในเขา และท้องไร่ท้องนาตามเดิม

แต่ที่โรงพยาบาลเด็กแห่งพิตสเบิร์ก เพนซิลวาเนีย กลับหันมาง้อพวกปลิง ขอให้กลับมาช่วยในการรักษาโรคเป็นการใหญ่

นายแพทย์มอเรย์ มอร์แลนด์ หัวหน้าศัลยแพทย์ แผนกกระดูก ของโรงพยาบาลเด็กแห่งนี้กล่าวว่า เขาได้ใช้ปลิงในการรักษาโรค ที่โรงพยาบาลนี้มากว่าสิบปีแล้ว และการรักษาโดยการใช้ปลิงได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

นายแพทย์มอเรย์ อธิบายว่า เขาใช้ปลิงช่วยในการรักษาคนไข้หลังการผ่าตัด โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้การปลูกผิวหนังหรือเนื้อเยื่อ การผ่าตัดต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ต่อนิ้วเท้า ต่อแขนขา หรือแม่แต่การผ่าตัดตบแต่งทุกส่วนของร่างกาย เป็นต้น

เขาได้ยกตัวอย่างล่าสุดของคนไข้ ซึ่งเป็นเด็กอายุ 11 ขวบ ชื่อ ไบรอัน สตริคเลอร์ ไบรอันประสบอุบัติเหตุสาหัส ในขณะที่เขาขี่จักรยาน จมูกของเขาขาดออกจากหน้า ต้องชมเชยแม่ของไบรอันที่มีสติดี แทนที่จะต้องกรีดแล้วก็เป็นลมสลบไป คาเรนแม่ของไบรอันใช้ผ้าสะอาดปิดจมูก แล้วโปะด้วยน้ำแข็ง

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์ช่วยกันผ่าตัด เย็บจมูกเข้าที่เดิม แต่ทุกคนก็หวั่นใจว่าจมูกของไบรอันคงจะเน่า เพราะหลังจากผ่าตัดต่อจมูกเรียบร้อยแล้ว จมูกของไบรอันเป็นสีดำ นั่นแสดงว่าเส้นเลือดขาดหมด เลือดมาเลี้ยงจมูกไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ช้าจมูกก็เน่าต้องตัดทิ้ง

แพทย์ตัดสินใจเอาปลิงดูดเลือดมาเกาะที่จมูก แม่ของไบรอันซึ่งเฝ้าลูกของตนอยู่ตลอดเวลาบอกว่า จมูกของลูกเป็นสีดำในตอนแรก แต่ต่อมาก็เป็นสีม่วง แล้วก็เป็นสีชมพู พอถึงตอนนี้ทุกคนรวมทั้งแพทย์ พยาบาลด้วยแสดงความดีใจว่า จมูกของไบรอันอยู่รอดปลอดภัยแน่แล้ว

ทำไมปลิงจึงช่วยได้ เพราะเวลาปลิงดูดเลือดปากของปลิง จะต้องกัดไปที่เนื้อก่อน ผู้ที่ถูกปลิงกัดและเกาะจะไม่รู้สึกอะไรเลย

เพราะอะไรจึงไม่รู้สึก เพราะขณะที่ปลิงกัดสิ่งมีชีวิตนั้น ปลิงจะปล่อยเอนไซม์ออกมาด้วย เอนไซม์นี้มีฤทธิ์เป็นยาชาอ่อนๆ และในเอนไซม์ก็จะทำให้เลือดในตัวผู้ถูกปลิงกัดนั้นคลอท (CLOT) หรือแข็งตัว ไม่ได้ เลือดในบริเวณที่ถูกปลิงกัด จะไหลเวียนตลอดเวลา

โดยเหตุนี้ ผู้ที่ป่วยซึ่งมีอาการเลือดอุดตัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีเล็กๆ อย่างไบรอัน หรือเคสซึ่งใหญ่ๆ อย่างไร โรคหัวใจ หรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน เป็นอัมพาตไปแล้ว เจ้าปลิงซึ่งมีรูปร่างหน้าชวนขยะแขยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวกลมโต เมื่อมันดูดเลือดเต็มที่แล้วจึงช่วยคนไข้ได้

การรักษาโดยใช้ปลิงนี้ ขณะนี้แพร่หลายเป็นทางการไปทั่วยุโรป และอเมริกา ใช้กันมาเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้ว นายแพทย์มอร์แลนด์กล่าวว่า ในอเมริกานั้นใช้มานานกว่าในยุโรปด้วยซ้ำ

รายงานการใช้ปลิง ได้ปรากฏในหนังสือการแพทย์ต่างๆ ของอเมริกาหลายฉบับ โดยเฉพาะรายงานใน JOURNAL OF MICROSURGERY นั้นเป็นที่ฮือฮาในวงการแพทย์ทั่วโลก

เจ้าสัตว์หน้าตาขยะแขยงสำหรับคุณผู้หญิงนี้ ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลในอเมริกาไม่ต่ำกว่าปีละ 30,000 ตัว ทั้งนี้ เป็นรายงานจากบริษัท LEE CHES USA. ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำฟาร์มปลิง และส่งปลิงไปให้โรงพยาบาลทั่วอเมริกา

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้จะเห็นมันเป็นสัตว์น่าขยะแขยง ก็อย่าไปดูถูกมัน.

สาทิส อินทรกำแหง


       back to homepage                                                                                                                                           8