[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง

 รู้จักไอโอดีน

ณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ ผมกำลังอยู่ที่จังหวัดน่าน (9 มิ.ย.) ผมได้รับเชิญให้ไปพูดที่โรงพยาบาลน่าน เกี่ยวกับเรื่องของชีวจิต เกิดความประทับใจหลายประการ จากการไปจังหวัดน่านคราวนี้

ที่ประทับใจมากที่สุด ก็คือชีวิตที่เรียบง่ายและสงบ ถึงแม้ว่าความเปลี่ยนแปลงทางวัตถุ จะเริ่มมีมากขึ้นตามวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ แต่ชีวิตความเป็นอยู่แบบเก่าๆ ก็ยังคงมีอยู่ ทุ่งนาป่าเขาสุดลูกหูลูกตา ชาวไร่ชาวนายังคงทำงานกันอย่างสบาย ท่ามกลางสายฝน อาหารการกินยังคงอุดมไปด้วยผักหญ้าและปลา น้ำในแม่น้ำสูงขึ้นแล้วครับ ล้อ (เกวียน) เล่มสุดท้ายหยุดข้ามแม่น้ำแล้วเมื่อ 3-4 วันก่อน เพราะน้ำกำลังขึ้นสูง

คุณพิกุล เฮงสนั่นกูล หัวหน้าพยาบาลที่ รพ.น่าน ได้กรุณาพาผมและคณะไปชมเมือง และสิ่งที่ท่านเน้นเป็นพิเศษและกำชับว่า ผมจะต้องดูให้ได้ ก็คือภาพฝาผนังและประตูไม้แกะสลักอย่างสวยงาม ที่โบสถ์วัดภูมินทร์ ผมไม่ทราบจะบรรยายอย่างไร จึงจะเข้าใจความรู้สึกลึกซึ้งของผม เมื่อได้เห็นของเก่าโบราณ ซึ่งรวมทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และเรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งยังสวยงามและสมบูรณ์ สมกับเป็นสมบัติมีค่าควรเมืองของเมืองน่านเช่นนั้น

ที่ประทับใจอย่างที่สุดก็คือ คุณพิกุล ซึ่งท่านคงจะรู้ใจผมเป็นอย่างดีว่า ภาพฝาผนังจะให้ความรู้แก่ผม ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งเป็นความรู้ความชำนาญโดยเฉพาะของผมอยู่แล้ว ท่านชี้ให้ผมดูภาพของชาวบ้านและชาวไร่ชาวนา ในภาพฝาผนังเหล่านั้น บอกว่า "อาจารย์ลองดูภาพคอของชาวบ้านหลายๆ คนในภาพนี้ดูซี"

ผมตาสว่างทันที และนึกขอบคุณคุณพิกุลอย่างยิ่ง ภาพที่ผมเห็นคือ ชาวบ้านเหล่านั้นเป็นโรคคอพอกกันแทบทุกคน

คุณค่าของศิลปะและวัตถุโบราณเหล่านี้ นอกจากความสวยงามทางศิลปะแล้วก็คือ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ และขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าๆ

ภาพเหล่านี้เกิดคู่มากับการสร้างบ้านสร้างเมืองน่าน หลายร้อยปีมาแล้ว และได้สะท้อนภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน หรือชาวบ้านสมัยก่อนไว้อย่างชัดแจ้ง เป็นหลักฐานแน่นอนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งคนรุ่นหลังจะได้ศึกษาเล่าเรียนกันต่อไป

หลักฐานเหล่านั้นบอกให้เราเข้าไปถึง เรื่องสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บสมัยก่อน โรคประจำตัวของชาวบ้าน ก็คือโรคคอพอก หรือภาษาพื้นเมืองหลายแห่งในอีสานเรียกว่า โรคเอ๋อ

โรคคอพอกหรือโรคเอ๋อนี้ เป็นปัญหาต่อเนื่องตั้งแต่หลายร้อยปีมาแล้ว จนกระทั่งบัดนี้ และที่เป็นมากก็คือ ในภาคเหนือและภาคอีสาน เมื่อสมัยที่ผมเป็นเด็กอยู่โคราช จำได้ว่าได้เห็นญาติพี่น้องหลายคน เป็นโรคคอพอกเป็นกันเยอะ จนกระทั่งว่าเป็นความรู้สึกธรรมดา ซึ่งยอมรับกันเสียแล้วว่า เมื่อถึงวัยกลางคนหรือแก่ตัวลง ก็จะกลายเป็นโรคคอพอก

มีข้อที่น่าสังเกต 2 ประการ เกี่ยวกับโรคคอพอกในเมืองไทย ประการที่หนึ่งประชาชนในอีสาน และภาคเหนือจะเป็นโรคคอพอกมากกว่าภาคอื่นๆ และประการที่สอง ที่เป็นโรคคอพอกนั้นจะเป็นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

สำหรับข้อที่หนึ่ง ที่ว่าประชาชนในภาคเหนือ และภาคอีสานเป็นโรคคอพอกกันมาก และเป็นกันมานานหลายร้อยปีแล้วนั้น สรุปได้แน่นอนว่าเป็นเพราะอาหาร อาหารตามปรกติธรรมดา ของประชาชนอีสานและภาคเหนือนั้น ขาดธาตุไอโอดีน ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้ไทรอยด์ทำงานได้ตามปรกติ

และที่ขาดธาตุไอโอดีนนั้นเป็นเรื่องปรกติ เพราะภาคเหนือและอีสานอยู่ห่างไกลทะเล อาหารที่มีไอโอดีนและสารอื่นๆ ในกลุ่มไอโอดีนอยู่มากนั้น เป็นอาหารจากทะเลเสียเป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้นชาวอีสานและชาวเหนือ ซึ่งขาดอาหารทะเลจึงขาดไอโอดีนไปด้วย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคคอพอกกันมาก

ไอโอดีนเป็นสารปริมาณน้อย (TRACE MINERAL) ซึ่งเมื่อเข้าไปในร่างกาย แล้วก็จะเปลี่ยนเป็นไอโอไดด์ (IODIDE) ซึ่งจะเป็นตัวสำคัญที่จะช่วยให้ต่อมไทรอยด์ ทำงานได้สมบูรณ์ และถูกต้อง และไอโอดีนนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของฮอร์โมนไทร็อกซีน ซึ่งจะมีหน้าที่สำคัญในการเผาผลาญของร่างกาย และสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย

ปริมาณของไอโอดีน ซึ่งร่างกายแต่ละวันต้องการนั้นมีน้อยมาก คือประมาณ 150 ไมโครแกรมเท่านั้น (จากการค้นคว้าและทดลองของ NATIONAL RESEARCH COUNCIL อเมริกา) ขนาดปริมาณน้อยนิดเท่านี้ ถ้าจะพูดแบบภาษาชาวบ้าน ก็คงจะพูดได้ว่า เราต้องการเพียงวันสักขี้เล็บมือเต็มๆ หน่อยเท่านั้นเอง

ความสำคัญของไอโอดีน แม้ว่าร่างกายจะต้องการเพียงวันละสักขี้เล็บมือ ซึ่งน้อยมากก็จริง แต่ความสำคัญนั้นมีอยู่มาก คือเป็นตัวสำคัญในการหมุนเวียน ของชีวิตทั้งชีวิตทีเดียว เพราะการที่ร่างกายจะพัฒนาตัวเองให้ชีวิตยืนยาว และแข็งแรงสมบูรณ์ต่อไปจนสิ้นอายุขัยนั้น ต้องการต่อมไทรอยด์ที่แข็งแรง ต่อมไทรอยด์จะแข็งแรงก็ต้องมีไอโอดีนเพียงพอ การมีไอโอดีนเพียงพอก็ต้องได้จากอาหาร

เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นของร่างกายที่สมบูรณ์ โดยมีไทรอยด์เป็นผู้กำกับการนี้ จึงต้องเริ่มต้นด้วยอาหารที่เรากินเสียก่อน ถ้ากินอาหารถูกต้อง ซึ่งส่วนหนึ่งจะต้องมีแร่ธาตุไอโอดีนเพียงพอแล้ว ร่างกายซึ่งเปรียบเหมือนเครื่องจักร ก็จะเป็นเครื่องสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีออกมาได้

ไอโอดีนจะช่วยให้การผลิตพลังให้กับร่างกาย สร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย เริ่มตั้งแต่เราคลอดออกจากครรภ์มารดา ควบคุมการเจริญเติบโตและการเผาผลาญหมุนเวียน ของพลังของร่างกายให้เป็นไปตามปรกติ

สำหรับผู้ที่มีไขมันหรือน้ำหนักมากเกินไป ก็ต่อมไทรอยด์นี้เองนั่นแหละ ที่จะช่วยเผาผลาญไขมันให้ดูสะโอดสะองขึ้นมาได้

นอกไปจากนั้นสภาพของผม เล็บ ผิวหนัง ฟัน จะแข็งแรงและดูสวยงามได้ ก็ต้องอาศัยไอโอดีนเป็นตัวช่วย

ที่สำคัญมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำงานของสมองและระบบประสาท ต้องอาศัยไอโอดีน และฮอร์โมนจากไทรอยด์เป็นตัวสำคัญ ในการช่วยให้สมองทำงานได้ ถูกต้องและมีความสดชื่นแจ่มใสด้วย

ถ้ามันเกี่ยวกับความสวยงามของร่างกายแล้วละก็ คุณผู้หญิงหลายท่านอาจจะดีอกดีใจ วิ่งไปหาไอโอดีนมากินเป็นการใหญ่ ขอเรียนให้ทราบว่า อย่าทำอย่างนั้นเป็นอันขาด เพราะไอโอดีนปริมาณมากๆ นั้น เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถ้าหากจะไปซื้อมากินมากๆ ก็จะเป็นอันตรายร้ายแรงเลยน่ะครับ เพราะฉะนั้นอย่านึกว่า การไปซื้ออาหารเสริมที่มีไอโอดีนมากๆ นั้น มันจะเป็นประโยชน์ ตรงกันข้ามมันจะทำให้คุณถึงเจ็บป่วยร้ายแรงได้

เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ การกินอาหารที่ถูกต้องอาหารทะเล เช่น สาหร่ายทะเล เคลพ์ (ต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่ง) และอาหารทะเล ปลา กุ้ง หอย เห็ด และพืชประเภทมอสส์ บางอย่างก็มีไอโอดีนมากพอสมควร แต่พืชที่ปลูกจากดินนั้น จะต้องเป็นดินที่มีธาตุไอโอดีนเพียงพอด้วย

ปัญหาอีกประการหนึ่งซึ่งยังไม่ได้พูดถึงก็คือ ทำไมโรคคอพอกจึงเป็นกับผู้หญิงมาก คำตอบก็คือ ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ แล้วเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่อาการของคอพอกเป็นที่ผู้หญิงมาก ก็เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องของฮอร์โมน แร่ธาตุ วิตามิน และตัวสำคัญก็เกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนด้วย โรคคอพอก (GOITER) จึงเป็นกับผู้หญิงมาก

แต่สำหรับผู้ชายนั้น ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ หรือขาดธาตุไอโอดีนแล้ว จะมีอาการเกี่ยวแก่สมองด้วย โดยเฉพาะเด็กเกิดใหม่ ซึ่งเกิดจากครรภ์มารดาซึ่งขาดธาตุไอโอดีนแล้ว โอกาสที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ จะทำให้การทำงานของสมอง และระบบประสาทพิกลพิการไปด้วย (จากรายงานของ NATIONAL RESEARCH COUNCIL) และประเภทไทรอยด์และเกี่ยวแก่สมอง จะเห็นได้ชัดในชาวอีสานที่เรียกกันว่า โรคเอ๋อ

จะอย่างไรก็ตาม การป้องกันด้วยการกินอาหารที่ถูกต้องเป็นวิธีที่ดีที่สุด ผมอยากจะอนุโมทนาสาธุกับโครงการ ของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ซึ่งมีโครงการให้เพิ่มไอโอดีนในเกลือและอาหาร เพื่อช่วยแก้โรคคอพอกและโรคเอ๋อ ผมจำได้ว่าผู้ที่เริ่มโครงการนี้ คืออาจารย์หมอร่มไทร สุวรรณณิก อาจารย์ วัลลภ ไทยเหนือ อาจารย์ลือชา วนรัตน์ และอาจารย์จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ช่วยกันบุกเบิกจนโครงการนี้ ช่วยป้องกันโรคคอพอกและโรคเอ๋อได้จนบางตา

แต่ก็ทราบมานะครับว่า กว่าโครงการนี้จะผ่านอุปสรรคได้ก็ต้องสู้กับปัญหา ทั้งภายในภายนอกมากพอสมควร เรื่องปัญหาก็คงน่าดูนะครับ ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มของพวก และก็ถ้ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ยิ่งยุ่งไปใหญ่

แต่ก็น่าดีใจที่อุปสรรคเหล่านี้ผ่านพ้นไปได้ และเดี๋ยวนี้เห็นไหมครับ ไพร่ฟ้า (โดยเฉพาะคนเป็นโรคคอพอก+เอ๋อ) หน้าใสกันไปตามๆ กัน

ขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขครับ ที่แก้เรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้.

สาทิส อินทรกำแหง


       back to homepage
                                                                                                                                                                   8