๏ เมื่อนั้น                                            นางประแดะตานีศรีใส
สดับเสียงสีซอพอฤทัย                    ให้วาบวับจับใจผูกพัน
ยิ่งคิดพิศวงพระทรงศักดิ์                ลืมรักท้าวประดู่ผู้ผัวขวัญ
ทำไฉนจะได้พระทรงธรรม์            มาเคียงพักตร์สักวันด้วยรักแรง
คิดพลางทางเข้าไปในห้อง            แล้วตักเอาข้าวกล้องมาสองแล่ง
ค่อยประจงลงใส่กระบะแดง        กับปลาสลิดแห้งห้าหกตัว
แล้วลงจากบันไดมิได้ช้า                เข้ามานอบนบจบเหนือหัว
เอาปลาใส่ย่ามด้วยความกลัว        แล้วยอบตัวลงบังคมก้มพักตรา

๏ เมื่อนั้น                                        ลันไดให้แสนเสน่หา
อะรามรักยักคิ้วหลิ่วตา                พูดจาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน

๏ งามเอยงามปลอด                    ชีวิตพี่นี้รอดด้วยข้าวสาร
เป็นกุศลดลใจเจ้าให้ทาน          เยาวมาลย์แม่มีพระคุณนัก
พี่ขอถามนามท้าวเจ้ากรุงไกร    ชื่อเสียงเรียงไรไม่รู้จัก
เจ้าเป็นพระมเหสีที่รัก                ฤานงลักษณ์เป็นราชธิดา
รูปร่างอย่างว่ากะลาสี                พี่ให้มีใจรักเจ้าหนักหนา
ว่าพลางเข้าใกล้กัลยา                พระราชาฉวยฉุดยุดมือไว้

๏ ทรงเอยทรงกระสอบ            ทำเล่นเห็นชอบฤาไฉน
ไม่รู้จักมักจี่นี่อะไร                    มาเลี้ยวไล่ฉวยฉุดยุดข้อมือ
ยิ่งว่าก็ไม่วางทำอย่างนี้            พระจะมีเงินช่วยข้าด้วยฤา
อวดว่ากล้าแข็งเข้าแย่งยื้อ        ลวนลามถามชื่อน้องทำไม
น้องมิใช่ตัวเปล่าเล่าเปลือย     หยาบเหมือนขี้เลื่อยเมื่อยหัวไหล่
ลูกเขาเมียเขาไม่เข้าใจ              บาปกรรมอย่างไรก็ไม่รู้

                                                                                                ๏ ดวงเอยดวงไต้                        สบถได้เจ็ดวันทัดสองหู
                                                                                    ความจริงพี่มิเล่นเป็นเช่นชู้                    จะร่วมเรียงเคียงคู่กันโดยดี
                                                                                    ถึงมิใช่ตัวเปล่าเจ้ามีผัว                            พี่ไม่กลัวบาปดอกนะโฉมศรี
                                                                                    อันนรกตกใจไปไยมี                               ยมพระบาลกับพี่เป็นเกลอกัน
                                                                                    เพียงจับมือถือแขนอย่าแค้นเคือง        จะให้น้องสองเฟื้องอย่าหุนหัน
                                                                                    แล้วแก้เงินในไถ้ออกให้พลัน              นี่แลขันหมากหมั้นกัลยา
                                                                                    พอดึกดึกสักหน่อยนะน้องแก้ว            พี่จะลอดล่องแมวขึ้นไปหา
                                                                                    โฉมเฉลาจงได้เมตตา                            เปิดประตุไว้ท่าอย่าหลับนอน

           ๏ ทรงเอยทรงกระโถน              อย่ามาพักปลอบโยนให้โอนอ่อน
ไม่อยากได้เงินทองของภูธร                นางเคืองค้อนคืนให้ไม่อินัง
ช่างอวดอ้างว่านรกไม่ตกใจ                คนอะไรอย่างนี้ก็มีมั่ง
เชิญเสด็จรีบออกไปนอกวัง                อย่ามานั่งวิงวอนทำค่อนแคะ
เพียงแต่รู้จักกันกระนั้นพลาง            พอเป็นทางไมตรีกระนี้แหละ
เมื่อพระอดข้าวปลาจึงมาแวะ            น้องฤาชื่อประแดะดวงใจ
ท่านท้าวประดู่ผู้เป็นผัว                       ยังไปเลี้ยงวัวหากลับไป่
แม้นชักช้าชีวันจะบรรลัย                  เร่งไปเสียเถิดพระราชา

๏ เมื่อนั้น                                                ลันไดยิ้มเยาะหัวเราะร่า
เราไม่เกรงกลัวอิทธิฤทธา                    ท้าวประดู่จะมาทำไมใคร
พี่ก็ทรงศักดากล้าหา                            แต่ข้าวสารเต็มกระบุงยังแบกไหว
ปลาแห้งพี่เอาเข้าเผาไฟ                    ประเดี๋ยวใจเคี้ยวเล่นออกเป็นจุณ
 

มีต่อหน้า 3 =>
.