บทที่ ๑ ( Chapter 1 )

ประโยคเงื่อนไข ( If-Clause )

  If -Clause หรือที่เรารู้จักกันดีในภาษาไทยว่า " ประโยคเงื่อนไข ( Conditional Sentence ) "  นั้นนะครับ ถ้าหากจะแบ่งหลักๆ จริงๆ ละก็ ผมขอแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ เลยนะครับ  ( นักเรียนที่น่ารักของผม กรุณาอย่าเพิ่งง่วงหาวนอนไปก่อนนะครับผมจะอธิบายไม่เยิ่นเย้อหรอกครับ.....รับรอง  ^_^  )   ที่ผมเลือกเอาเรื่องมาพูดก่อน ก็ผมเห็นว่า มีโอกาสจะได้ใช้เยอะครับประโยค If-Clause เนี่ย

   แบบที่ 1 การใช้เงื่อนไขที่จะเป็นจริง  ( Future Possible )

If + Present Simple Tense + Subj. + will + V1

            แบบนี้นะครับ ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่ผู้พูดแน่ใจว่า เงื่อนไขนั้นจะเป็นจริง ผลที่จะเกิดก็จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

       If Alex studies hard, he will pass the exam.
            ถ้าอเล็กซ์ขยันเรียน เขาก็จะสอบผ่านนะ
            ( ผู้พูดแน่ใจว่า เขาจะสอบผ่านอย่างแน่นอน ถ้าเขามีความตั้งใจจริง )

       If she hurries, she will be in time.
       ถ้าหล่อนรีบ หล่อนก็จะทันเวลาชัวร์
            ( ผู้พูดมั่นใจว่า ถ้าหล่อนรีบก็จะทันเวลาอย่างแน่นอน )
 

      แบบที่ 2 การใช้เงื่อนไขที่ไม่เป็นจริง  ( Present Unreal )

If + Past Simple Tense + Subj. + would + V1

            สำหรับแบบนี้นะครับ จะใช้ถึงเหตุการณ์สมมุติที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ก็เพ้อฝันจินตนาการไปเรื่อยเปื่อยล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ

            If I were a millionnaire, I would travel around the world.
       ถ้าอั๊วะได้เป็นเศรษฐีเงินล้าน อั๊วะจะเที่ยวรอบโลก
            ( ความจริงแล้ว อั๊วะคงจะไม่มีบุญได้เป็นหรอกว่ะ แค่ฝันไปลมๆ แล้งๆ เท่านั้นแหละ )

       If I were a bird, I would be very happy.
       ถ้าฉันได้เป็นนก ฉันคงจะดีใจไม่น้อยทีเดียว
            ( ความจริงแล้ว คนจะกลายเป็นนกได้ยังไงล่ะ ไม่จริงหรอก )
 

     แบบที่ 3 การใช้เงื่อนไขที่ไม่เป็นจริงในอดีต ( Past Unreal )

If + Past Perfect Tense + Subj. + would have + V3

            ส่วนแบบนี้นะครับก็เป็นการสมมุติเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแต่อดีตกาลนานนมแล้ว ผู้พูดก็ทราบดีนะครับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ
    เป็นยังไง แต่ก็นำมาพูดสมมุติใหม่ ในทางตรงกันข้ามไงล่ะครับ

            If you had stayed home, you would have seen him.
            ถ้าเธออยู่บ้านตอนนั้น เธอคงจะเจอเขาแล้วแหละ
            ( ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ เธอออกไปข้างนอก ก็เลยไม่ได้เจอเขา )

            If Pim had not gone out, she would not have got wet.
       ถ้าพิมไม่ออกไปข้างนอก หล่อนก็คงจะไม่เปียกหรอกนะ
            ( ความจริงก็คือ เธอได้ออกข้างนอก แล้วเธอก็กลับมาอย่างลูกหมาตกน้ำ )
 

            นอกจากนี้นะครับ จริงๆ แล้วบางที่ก็อาจจะเพิ่ม If-Clause แบบนี้ไปอีก นั่นก็คือ If-Clause ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงเสมอ
    ( Real Condition )  รูปแบบก็จะแบบ If + Present Simple Tense + Present Simple Tense ยกตัวอย่างเช่น

       If there is no water, we absolutely die.
       ถ้าหากปราศจากน้ำแล้ว พวกเราก็จะต้องตายอย่างแน่นอน
            ( เป็นความจริงใช่ไหมล่ะครับ รึใครจะเถียง? อิอิอิ )

            เป็นอย่างไรบ้างครับ หวังว่าคงจะทำความเข้าใจไม่ยากนะครับ ผมก็จะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะครับ
    หากท่านต้องการอยากจะให้ช่วยแนะนำไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่องใด ก็สามารถอีเมล์มาบอกผมได้นะครับ จะพยายามไปรวบรวมข้อมูล
    แล้วมาอธิบายสรุปให้ฟังที่นี่ครับ สำหรับครั้งต่อไป ผมจะแนะนำเรื่อง " คำถามมีหาง " โอ้...อย่าเพิ่งงงงวยไปนะครับ มันก็คือเรื่อง
    " Question Tag " นั่นเองครับ แล้วผมจะมาอธิบายให้ฟังนะคร้าบ
 
 

  2         4     5